VARCHAR (ย่อมาจาก Variable Character Field อ่านว่า วาร์คาร์ หรือ วาร์ชาร์) หมายถึงกลุ่มข้อมูลตัวอักขระที่ไม่สามารถระบุความยาวได้ คำนี้มักใช้เป็นชนิดข้อมูลในระบบจัดการฐานข้อมูล ชนิดข้อมูลประเภท varchar สามารถเก็บข้อมูลตัวอักขระขนาดเท่าใดก็ได้ที่ไม่เกินความยาวที่จำกัดไว้ การจำกัดความยาวก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละฐานข้อมูล
TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น
TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ
DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD
SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ
TINYINTMEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ
TINYINTINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ
TINYINTBIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย) FLOAT[(M,D)] : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต
DOUBLE[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308
DECIMAL[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง
DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS
TIMESTAMP[(M)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8
TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS
YEAR[(2/4)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069
CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ
TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์
TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร
BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64KBM
EDIUMBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MBM
EDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษรLONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB
LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร
SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า
ENUM(Enumeration) >> หมายถึงเซตของข้อมูลชุดหนึ่งที่มีจำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้แน่นอนและทราบค่าทุกตัว ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่
BINARYระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
BOOL คือข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False)
VARBINARY คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552
วิธีการติดตั้ง appserv-win32.2.5.9
ดาวน์โหลด appserv-win32.2.5.9 จากเว็บไซต์ http://kitt.kvc.ac.th
คัดลอกมา ลงที่เครื่องไว้ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ appserv-win32.2.5.9 เพื่อทำการติดตั้ง
เข้าสู่ขั้นตอนเงื่อนไขการใช้งานโปรแกรม อ่านเงื่อนไขต่างๆเสร็จแล้วหากยอมรับเงื่อนไขให้กด I agreeเพื่อเข้าสู่การติดตั้งในขั้นต่อไป
เข้าสู่ขั้นตอนเลือกปลายทางที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นปลายทางที่ติดตั้งจะเป็น C:AppServ ให้กดปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งขั้นต่อไป
เข้าสู่ขั้นตอนการเลือก Package Components ที่ต้องการติดตั้ง เลือกทั้งหมด 4 ช่อง แล้วให้กด Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งต่อไป
ขั้นตอนนนี้ต้อง กำหนดค่า มีทั้งหมด 3 ส่วน
ช่องแรก Server Name คือช่องสำหรับป้อนข้อมูลชื่อ Web Server ของเรา เช่น localhost
ช่องที่สองAdmin Email คือช่องสำหรับป้อนข้อมูล อีเมล์ผู้ดูแลระบบ
ช่องสุดท้าย ไม่ต้องแก้ใขอะไร เพราจะมี เลข 80 อยู่แล้ว
เข้าสู่ขั้นตอน ที่จะต้องป้อนรหัสผ่านของเรา ช่องแรกรหัสผ่าน ช่องที่สองยืนยันรหัสผ่าน
แล้วไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรอีก เสร็จแล้วเลือก Install
ขั้นตอนสุดท้ายนี้ให้เลือกทั้งสองตัวเลือก จากนั้นกดปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม AppServ
...........เสร็จสิ้นการติดตั้งแล้ว..........
คัดลอกมา ลงที่เครื่องไว้ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ appserv-win32.2.5.9 เพื่อทำการติดตั้ง
เข้าสู่ขั้นตอนเงื่อนไขการใช้งานโปรแกรม อ่านเงื่อนไขต่างๆเสร็จแล้วหากยอมรับเงื่อนไขให้กด I agreeเพื่อเข้าสู่การติดตั้งในขั้นต่อไป
เข้าสู่ขั้นตอนเลือกปลายทางที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นปลายทางที่ติดตั้งจะเป็น C:AppServ ให้กดปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งขั้นต่อไป
เข้าสู่ขั้นตอนการเลือก Package Components ที่ต้องการติดตั้ง เลือกทั้งหมด 4 ช่อง แล้วให้กด Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งต่อไป
ขั้นตอนนนี้ต้อง กำหนดค่า มีทั้งหมด 3 ส่วน
ช่องแรก Server Name คือช่องสำหรับป้อนข้อมูลชื่อ Web Server ของเรา เช่น localhost
ช่องที่สองAdmin Email คือช่องสำหรับป้อนข้อมูล อีเมล์ผู้ดูแลระบบ
ช่องสุดท้าย ไม่ต้องแก้ใขอะไร เพราจะมี เลข 80 อยู่แล้ว
เข้าสู่ขั้นตอน ที่จะต้องป้อนรหัสผ่านของเรา ช่องแรกรหัสผ่าน ช่องที่สองยืนยันรหัสผ่าน
แล้วไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรอีก เสร็จแล้วเลือก Install
ขั้นตอนสุดท้ายนี้ให้เลือกทั้งสองตัวเลือก จากนั้นกดปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม AppServ
...........เสร็จสิ้นการติดตั้งแล้ว..........
วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
Vocaburaly
1.Database ชุดของข้อมูลที่รวมเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องราวเดียวกันรวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นชุดข้อมูล
2.DBMS (data base management system) ซอฟต์แวร์ที่ใช้จัดการฐานข้อมูล ช่วยในการสร้างข้อมูล เพิ่มข้อมูล ลบข้อมูล เรียกใช้ข้อมูล 3.Database Administrators : DBAs บุคลากรที่ทำหน้าที่บริการและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าในระบบ จัดเก็บโดยวิธีใด เทคนิคการเรียกใช้ข้อมูล
4.Database Developmentโปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล เช่น Microsoft Access หรือ Lotus Approach อนุญาตให้ผู้ใช้พัฒนาฐานข้อมูลตามที่ต้องการได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามระบบผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
5.Data Definition Language : DDL เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา (Schema)
6.Data Interrogationความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล โดยการใช้ภาษาสอบถาม
7.Graphical and Natural Queriesผู้ใช้ ( และผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ) หลายรายลำบากที่จะแก้ไขวลีของ SQL และคำถามภาษาฐานข้อมูลอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมสำเร็จรูปฐานข้อมูลส่วนใหญ่จึงเสนอวิธีการชี้และคลิกส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface : GUI) ซึ่งง่ายต่อการใช้และใช้ซอฟต์แวร์
8.Application Developmentโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สามารถใช้ภาษาโปรแกรมยุคที่สี่ (4GL Programming Language) และสร้างเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์จากโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูล
9.Data Manipulation Language : DML เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา
10.Subject Area Database : SADB ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง
11.Analytical Databaseเก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้
12.Multidimensional Database ให้การสนับสนุนสำหรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาก
13.Data Warehouses เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ คลังข้อมูลอาจแบ่งออกเป็นตลาดข้อมูล14.Distributed Databasesการกระจายสำเนา (Copies) หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่ ฐานข้อมูลแบบกระจายนี้สามารถติดตั้งอยู่บนเครื่องแม่ข่ายเครือข่าย World Wide Web บนอินทราเน็ตขององค์กร หรือเอ็กซ์ทราเน็ต ฐานข้อมูลแบบกระจายอาจจะสำเนาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการหรือฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์
15.End User Databasesประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ หรือรับจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
16.Field) เป็นหน่วยข้อมูลที่ประกอบมาจากอักขระต่าง ๆ หลายอักขฟระ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ที่ประกอบด้วยอักขระหลาย ๆ ตัว เป็นต้น
17.Record) จะเป็นการนำฟิลด์หลาย ๆ ฟิลด์มาร่วมกัน เช่น เรคอร์ดลฟูกค้า ก็จะเก็บฟิลด์ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
18.Table) จะเป็นการนำเรคอร์ดหลาย ๆ เรคอร์ดมารวมกัน เช่น ตารางลูกค้า จะประกอบด้วยเรอร์ดของลูกค้าที่เป็นลูกค้าแต่ละราย
19.Entity) เป็นคำที่อ้างอิงถึง บุคคล สถานที่ และสิ่งของต่าง ๆ เช่น สินค้า ใบสั่งซื้อ และลูกค้า เป็นต้น ถ้าเราสนใจในการสร้างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เอนทิตี้ของระบบ นี้จะประกอบด้วย เอนทิตี้ลูกค้า ใบสั่งซื้อสินค้า และสินค้า
20.InfraStucture Management คือการจัดทำระบบการบริหารงานคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐาน การควบคุมคุณภาพ
2.DBMS (data base management system) ซอฟต์แวร์ที่ใช้จัดการฐานข้อมูล ช่วยในการสร้างข้อมูล เพิ่มข้อมูล ลบข้อมูล เรียกใช้ข้อมูล 3.Database Administrators : DBAs บุคลากรที่ทำหน้าที่บริการและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าในระบบ จัดเก็บโดยวิธีใด เทคนิคการเรียกใช้ข้อมูล
4.Database Developmentโปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล เช่น Microsoft Access หรือ Lotus Approach อนุญาตให้ผู้ใช้พัฒนาฐานข้อมูลตามที่ต้องการได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามระบบผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
5.Data Definition Language : DDL เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา (Schema)
6.Data Interrogationความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล โดยการใช้ภาษาสอบถาม
7.Graphical and Natural Queriesผู้ใช้ ( และผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ) หลายรายลำบากที่จะแก้ไขวลีของ SQL และคำถามภาษาฐานข้อมูลอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมสำเร็จรูปฐานข้อมูลส่วนใหญ่จึงเสนอวิธีการชี้และคลิกส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface : GUI) ซึ่งง่ายต่อการใช้และใช้ซอฟต์แวร์
8.Application Developmentโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สามารถใช้ภาษาโปรแกรมยุคที่สี่ (4GL Programming Language) และสร้างเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์จากโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูล
9.Data Manipulation Language : DML เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา
10.Subject Area Database : SADB ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง
11.Analytical Databaseเก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้
12.Multidimensional Database ให้การสนับสนุนสำหรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาก
13.Data Warehouses เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ คลังข้อมูลอาจแบ่งออกเป็นตลาดข้อมูล14.Distributed Databasesการกระจายสำเนา (Copies) หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่ ฐานข้อมูลแบบกระจายนี้สามารถติดตั้งอยู่บนเครื่องแม่ข่ายเครือข่าย World Wide Web บนอินทราเน็ตขององค์กร หรือเอ็กซ์ทราเน็ต ฐานข้อมูลแบบกระจายอาจจะสำเนาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการหรือฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์
15.End User Databasesประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ หรือรับจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
16.Field) เป็นหน่วยข้อมูลที่ประกอบมาจากอักขระต่าง ๆ หลายอักขฟระ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ที่ประกอบด้วยอักขระหลาย ๆ ตัว เป็นต้น
17.Record) จะเป็นการนำฟิลด์หลาย ๆ ฟิลด์มาร่วมกัน เช่น เรคอร์ดลฟูกค้า ก็จะเก็บฟิลด์ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
18.Table) จะเป็นการนำเรคอร์ดหลาย ๆ เรคอร์ดมารวมกัน เช่น ตารางลูกค้า จะประกอบด้วยเรอร์ดของลูกค้าที่เป็นลูกค้าแต่ละราย
19.Entity) เป็นคำที่อ้างอิงถึง บุคคล สถานที่ และสิ่งของต่าง ๆ เช่น สินค้า ใบสั่งซื้อ และลูกค้า เป็นต้น ถ้าเราสนใจในการสร้างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เอนทิตี้ของระบบ นี้จะประกอบด้วย เอนทิตี้ลูกค้า ใบสั่งซื้อสินค้า และสินค้า
20.InfraStucture Management คือการจัดทำระบบการบริหารงานคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐาน การควบคุมคุณภาพ
วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552
How SCSI Work
1.information อินฟอเมชัน ข้อมูล
2.power พาวเวอร์ พลัง
3.exemple เอ็กแซมเปิล ตัวอย่าง
4.player เพลเยอร์ เครื่องเล่น
5.digital camera ดิจิตอลแคเมร่า กล้องดิจิตอล
6.port พอร์ต พอร์ต
7.data ดาต้า ข้อมูล
8.small สมอล เล็ก
9.electronic อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์
10.pictures พิกเจอร์ รูปภาพ
11.music มิวสิค เพลง
12.support ซับพอร์ต สนับสนุน
13.server เซิฟเวอร์ แม่ข่าย
14.system ซิสเต็ม สนับสนุน
15.connect คอนเน็ค เชื่อมต่อ
16.printer พริ้นเตอร์ เครื่องพิมพ์
17.tape เทป เทป
18.basic เบสิค พื่นฐาน
19.older ออเดอร์ เก่ากว่า
20.fast แฟส เร็ว
21.second เซคอน ที่สอง
22.been บีน เป็น
23.more มรู มากกว่า
24.item ไอเท็ม รายการ
25.most มอท ส่วนใหญ่
26.comon คอมมอน ธรรมดา
27.khow โนว รู้
28.easy อีซี่ ง่าย
29.often ออฟเทน บ่อยครั้ง
30.contorl คอนโทรล การควบคุม
31.like ไลค์ ชอบ
32.used ยูส ที่ใช้
33.fester เร็วขึ้น
32.treamines เทมมิเนส กำหนด
33.whith วิท อันไหน
34.sends เชนส์ ส่ง
35.another อนาวเตอร์ อีกหนึ่ง
36.improves อิมพรอเวส ช่วยเพิ่ม
37.parity พาริตี้ ความเท่าเทียม
38.makes มาเก็ต ที่ทำให้
39.exact เอ็กเสท ตรงกัน
40.duplicate ดิฟฟิเคท ซ้ำกัน
41.minimum มินิมัม ขั้นต่ำ
42.written วิทเทน เขียน
43.last เลส สุดท้าย
44.stores สโตรก เก็บ
45.number นัมเบอร์ หมายเลข
46.repersents เรฟเพอร์เซ้นส์ แสดงถึง
47.developed ไดโรเพด พัฒนา
48.obsolete ออบโซเลท ล้าสมัย
49.featured เฟสเทอเรส คุณลักษณะ
50.speed สปีด ความเร็ว
2.power พาวเวอร์ พลัง
3.exemple เอ็กแซมเปิล ตัวอย่าง
4.player เพลเยอร์ เครื่องเล่น
5.digital camera ดิจิตอลแคเมร่า กล้องดิจิตอล
6.port พอร์ต พอร์ต
7.data ดาต้า ข้อมูล
8.small สมอล เล็ก
9.electronic อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์
10.pictures พิกเจอร์ รูปภาพ
11.music มิวสิค เพลง
12.support ซับพอร์ต สนับสนุน
13.server เซิฟเวอร์ แม่ข่าย
14.system ซิสเต็ม สนับสนุน
15.connect คอนเน็ค เชื่อมต่อ
16.printer พริ้นเตอร์ เครื่องพิมพ์
17.tape เทป เทป
18.basic เบสิค พื่นฐาน
19.older ออเดอร์ เก่ากว่า
20.fast แฟส เร็ว
21.second เซคอน ที่สอง
22.been บีน เป็น
23.more มรู มากกว่า
24.item ไอเท็ม รายการ
25.most มอท ส่วนใหญ่
26.comon คอมมอน ธรรมดา
27.khow โนว รู้
28.easy อีซี่ ง่าย
29.often ออฟเทน บ่อยครั้ง
30.contorl คอนโทรล การควบคุม
31.like ไลค์ ชอบ
32.used ยูส ที่ใช้
33.fester เร็วขึ้น
32.treamines เทมมิเนส กำหนด
33.whith วิท อันไหน
34.sends เชนส์ ส่ง
35.another อนาวเตอร์ อีกหนึ่ง
36.improves อิมพรอเวส ช่วยเพิ่ม
37.parity พาริตี้ ความเท่าเทียม
38.makes มาเก็ต ที่ทำให้
39.exact เอ็กเสท ตรงกัน
40.duplicate ดิฟฟิเคท ซ้ำกัน
41.minimum มินิมัม ขั้นต่ำ
42.written วิทเทน เขียน
43.last เลส สุดท้าย
44.stores สโตรก เก็บ
45.number นัมเบอร์ หมายเลข
46.repersents เรฟเพอร์เซ้นส์ แสดงถึง
47.developed ไดโรเพด พัฒนา
48.obsolete ออบโซเลท ล้าสมัย
49.featured เฟสเทอเรส คุณลักษณะ
50.speed สปีด ความเร็ว
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ส่งแบบฝึกหัดที่ 6
1. ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของส่วนประกอบและปุ่มต่าง ๆ
1. คือ เฟรม ที่ใช้แสดงลำดับภาพนิ่งแต่ละส่วน
2. คือ ตัวกำหนดเวลาในการแสดงผล (ยิ่งน้อย ยิ่งดูคลาสิก)
3. คือ ปุ่มควบคุมการวนซ้ำ ถ้า Forever คือวนรอบไปเรื่อยๆ ถ้าวนรอบ 1 รอบใช้ Once
4. คือ ปุ่มควบคุม ที่ใช้แสดงตัวอย่างของภาพ Animation หรือจะกระโดดไปที่ดฟรมอื่นๆ ตามที่ต้องการใช้5. คือ ปุ่มสร้างภาพ Animation อย่างต่อเนื่อง ที่โปรแกรมคำนวณเฟรมอยู่ระหว่างเฟรมเริ่มต้นและเฟรมสุดท้าย
6. คือ ปุ่มสร้างเฟรมใหม่ วึ่งจะใช้เมื่อต้องการสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ๆ เข้าไป7. คือ ปุ่มลบเฟรม เอาไว้ลบเฟรมที่ไม่ต้องการทิ้งไป
2.ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรเคลื่อนไหวแบบ Fade
1. สร้างไฟล์ขนาด 250*89 pixel, Resolution 72, Mode RGB, Backgroud Write
2. เลือกเครื่องมือ Type Tool จากนั้นคลิกพิมพ์ข้อความ
3. ให้ทำการคัดลอกเลเยอร์ ( Duplicate layer)จนครบอีก 3 อัน และทำการแก้ไขในแต่ละเลเยอร์
4. ไปที่เมนู Windows ---Animation เพื่อทำการเรียกเมนูเคลื่อนไหวออกมา
5. ทำการคัดลอกเฟรมให้ได้ 4 เฟรม โดยไปที่ปุ่ม Duplicates Select Frames
6. กำหนดเวลาทุกเฟรม โดยกด (Shift+คลิกแต่ละเฟรมX) จากนั้นไปที่มุมเวลาเฟรมสุดท้ายคลิกแล้วจะปรากฏเวลาขึ้นมาให้เลือก เลือก 1 วินาที
3. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้าง Gallery ภาพถ่ายให้กับเว็บไซต์
1. สร้างโฟลเดอร์ไว้สำหรับเก็บไฟล์ที่ต้องการ
2. สร้างไฟล์ขนาด 400 pixels*300 pixels แล้วเก็บไว้ในโฟลเดอร์
3. ไปที่เมนู file---Automate---Web Photo Dally--จะปรากฏดังจอภาพ
4. เลือกรูปแบบหรือสไตล์ที่ชอบ(ซึ่งจะหฃปรากฏตัวอย่างให้ดู) คลิกเลือกปุ่มโฟลเดอร์แหล่งของภาพที่สร้างไว้ (ข้อ1) คลิกเลือกเส้นทางที่จะเก็บงานที่สร้าง Gally (จะต้องไม่ซ้ำกับโฟลเดอร์แหล่งภาพ) เลือกคุณสมบัติของภาพ แล้วตอบ OK
1. คือ เฟรม ที่ใช้แสดงลำดับภาพนิ่งแต่ละส่วน
2. คือ ตัวกำหนดเวลาในการแสดงผล (ยิ่งน้อย ยิ่งดูคลาสิก)
3. คือ ปุ่มควบคุมการวนซ้ำ ถ้า Forever คือวนรอบไปเรื่อยๆ ถ้าวนรอบ 1 รอบใช้ Once
4. คือ ปุ่มควบคุม ที่ใช้แสดงตัวอย่างของภาพ Animation หรือจะกระโดดไปที่ดฟรมอื่นๆ ตามที่ต้องการใช้5. คือ ปุ่มสร้างภาพ Animation อย่างต่อเนื่อง ที่โปรแกรมคำนวณเฟรมอยู่ระหว่างเฟรมเริ่มต้นและเฟรมสุดท้าย
6. คือ ปุ่มสร้างเฟรมใหม่ วึ่งจะใช้เมื่อต้องการสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ๆ เข้าไป7. คือ ปุ่มลบเฟรม เอาไว้ลบเฟรมที่ไม่ต้องการทิ้งไป
2.ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรเคลื่อนไหวแบบ Fade
1. สร้างไฟล์ขนาด 250*89 pixel, Resolution 72, Mode RGB, Backgroud Write
2. เลือกเครื่องมือ Type Tool จากนั้นคลิกพิมพ์ข้อความ
3. ให้ทำการคัดลอกเลเยอร์ ( Duplicate layer)จนครบอีก 3 อัน และทำการแก้ไขในแต่ละเลเยอร์
4. ไปที่เมนู Windows ---Animation เพื่อทำการเรียกเมนูเคลื่อนไหวออกมา
5. ทำการคัดลอกเฟรมให้ได้ 4 เฟรม โดยไปที่ปุ่ม Duplicates Select Frames
6. กำหนดเวลาทุกเฟรม โดยกด (Shift+คลิกแต่ละเฟรมX) จากนั้นไปที่มุมเวลาเฟรมสุดท้ายคลิกแล้วจะปรากฏเวลาขึ้นมาให้เลือก เลือก 1 วินาที
3. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้าง Gallery ภาพถ่ายให้กับเว็บไซต์
1. สร้างโฟลเดอร์ไว้สำหรับเก็บไฟล์ที่ต้องการ
2. สร้างไฟล์ขนาด 400 pixels*300 pixels แล้วเก็บไว้ในโฟลเดอร์
3. ไปที่เมนู file---Automate---Web Photo Dally--จะปรากฏดังจอภาพ
4. เลือกรูปแบบหรือสไตล์ที่ชอบ(ซึ่งจะหฃปรากฏตัวอย่างให้ดู) คลิกเลือกปุ่มโฟลเดอร์แหล่งของภาพที่สร้างไว้ (ข้อ1) คลิกเลือกเส้นทางที่จะเก็บงานที่สร้าง Gally (จะต้องไม่ซ้ำกับโฟลเดอร์แหล่งภาพ) เลือกคุณสมบัติของภาพ แล้วตอบ OK
ส่งแบบฝึกหัดที่ 5
1. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างปุ่มและอักษร 3 มิติ
1.ทำการสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ โดยกำหนดขนาด 300*135 ความละเอียด 72
2.เลือกเครื่องมือ rectangular tool แดรกเมาส์ตีกรอบสี่เหลี่ยม
3.เลือกเครื่องมือ Gradient Tool เลือกเฉดสีที่จะทำการไล่เฉดสี
4.ย่อเส้นปะเข้ามาอีก 10 จุด โดยไปที่เมนู Select >> Modify >> Contact ใส่ตัวเลข 10 แล้วกดปุ่ง Ok
5.แดรกเมาส์จากขวาไปซ้าย
6.ไปที่เครื่องมือ Type Tool เพื่อทำการพิมพ์อักษร
7.ไปที่เมนู Layer >> Type >> Conveert to Shape จะเห็นกรอบข้อความจากนั้นไปที่ Edit >>Transform >> Perspective แดรกเมาส์ที่มุมเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามรูปทรงที่ต้องการแล้วกด Enter เมื่อได้ภาพที่ต้องการ
8.ทำอักษรให้นูนโดยไปที่ Layer >> Layer Style >> Bevel and Emboss แล้วก็ปรับเอาตามความต้องการ
9.เมื่อปรับเสร็จตามความต้องการแล้วก็กดปุ่ม Ok
2.ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรลำแสง
1.สร้างไฟล์ขึ้นมา ขนาด 500*350 ความละเอียด 100
2.เลือกเครื่องมือ Paint Tool เทสีลงไปตามต้องการ เพื่อเป็น Background
3.เลือกเครื่องมือ Type Tools เพื่อพิมพ์ตัวอักษร
4.กดคีย์บอร์ด Ctrl+J เพื่อ Duplicate Layers จากนั้นเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ Copy มา หลังจากนั้นทำการซ่อน Layer ที่ Copy มา จากนั้นก็คลิกรวม Layer โดยกดคีย์บอร์ด Ctrl+E
5.ไปที่เมนู Filter >> Stylize >> Wind แล้วติ๊กเครื่องหมาย หน้าช่อง Wind และ From the Right ( Layer คลิกอยู่ที่ Background )
6.กดคยืบอร์ด Ctrl+J เพื่อ Duplicate Layers แล้วไปที่เมนู Filter >> Stylize >> wind แล้วติ๊กเครื่องหมาย หน้าช่อง Wind และ From the Right ( Layer คลิกอยู่ที่ Background )
3.ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของเครื่องมือต่อไปนี้
1.เป็นตัวเชื่อมระหว่าง Layer
2.เป็นส่วนที่ใส่ Effecf เช่น แสง เงา
3.เป็นส่วนที่เพิ่มเติม Mak หรือ เพิ่ม Layer
4.เป็นส่วนที่ใช่ปรัค่าแสงความสว่าง ปรับค่าสี ความคมชัด
5.เป็นส่วนที่สร้าง Fonder สำหรับเก็บ Layer
6.เป็นเครื่องหมายการสร้าง Layer ขึ้นมาใหม่
7.เป็นปุ่มที่ใช่ลบ Layer ที่ไม่ต้องการ
1.ทำการสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ โดยกำหนดขนาด 300*135 ความละเอียด 72
2.เลือกเครื่องมือ rectangular tool แดรกเมาส์ตีกรอบสี่เหลี่ยม
3.เลือกเครื่องมือ Gradient Tool เลือกเฉดสีที่จะทำการไล่เฉดสี
4.ย่อเส้นปะเข้ามาอีก 10 จุด โดยไปที่เมนู Select >> Modify >> Contact ใส่ตัวเลข 10 แล้วกดปุ่ง Ok
5.แดรกเมาส์จากขวาไปซ้าย
6.ไปที่เครื่องมือ Type Tool เพื่อทำการพิมพ์อักษร
7.ไปที่เมนู Layer >> Type >> Conveert to Shape จะเห็นกรอบข้อความจากนั้นไปที่ Edit >>Transform >> Perspective แดรกเมาส์ที่มุมเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามรูปทรงที่ต้องการแล้วกด Enter เมื่อได้ภาพที่ต้องการ
8.ทำอักษรให้นูนโดยไปที่ Layer >> Layer Style >> Bevel and Emboss แล้วก็ปรับเอาตามความต้องการ
9.เมื่อปรับเสร็จตามความต้องการแล้วก็กดปุ่ม Ok
2.ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรลำแสง
1.สร้างไฟล์ขึ้นมา ขนาด 500*350 ความละเอียด 100
2.เลือกเครื่องมือ Paint Tool เทสีลงไปตามต้องการ เพื่อเป็น Background
3.เลือกเครื่องมือ Type Tools เพื่อพิมพ์ตัวอักษร
4.กดคีย์บอร์ด Ctrl+J เพื่อ Duplicate Layers จากนั้นเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ Copy มา หลังจากนั้นทำการซ่อน Layer ที่ Copy มา จากนั้นก็คลิกรวม Layer โดยกดคีย์บอร์ด Ctrl+E
5.ไปที่เมนู Filter >> Stylize >> Wind แล้วติ๊กเครื่องหมาย หน้าช่อง Wind และ From the Right ( Layer คลิกอยู่ที่ Background )
6.กดคยืบอร์ด Ctrl+J เพื่อ Duplicate Layers แล้วไปที่เมนู Filter >> Stylize >> wind แล้วติ๊กเครื่องหมาย หน้าช่อง Wind และ From the Right ( Layer คลิกอยู่ที่ Background )
3.ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของเครื่องมือต่อไปนี้
1.เป็นตัวเชื่อมระหว่าง Layer
2.เป็นส่วนที่ใส่ Effecf เช่น แสง เงา
3.เป็นส่วนที่เพิ่มเติม Mak หรือ เพิ่ม Layer
4.เป็นส่วนที่ใช่ปรัค่าแสงความสว่าง ปรับค่าสี ความคมชัด
5.เป็นส่วนที่สร้าง Fonder สำหรับเก็บ Layer
6.เป็นเครื่องหมายการสร้าง Layer ขึ้นมาใหม่
7.เป็นปุ่มที่ใช่ลบ Layer ที่ไม่ต้องการ
ส่งแบบฝึกหัดที่ 4
แบบฝึกหัด บทที่ 4
(10.) ให้นักศึกษาบอกข้อดีของ Adobe PhotoshopCS3 พร้อมอธิบาย
คำตอบ พัฒนาการในการตกแต่งภาพ และออกแบบงานกราฟิก Adobe นับเป็นบริษัทหนึ่งที่พัฒนาโปรแกรมอย่างต่อเนื่อง Adobe PhotoshopCS3 ถือว่าเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมยุคดิจิทอล สังคมที่หลากหลายมิติ
(11.)ให้นักศึกษาหาความหมายของเครื่องมือใน Adobe PhotoshopCS3 พร้อมอธิบาย
1.Move Tool ใช้ในการเลื่อน Layer และ Guide ต่างๆ
2.Marquee Tool ใช้ในการเลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม ฯลน
3.Lasso Tool ใช้ในการเลือกแบบอิสระ
4.Magic Wand Tool ใช้ในการเลือกโดยอาศัยความสว่าง
5.Crop Tool ใช้ในการเลือกบางส่วนของรูปภาพ
6.Slice tool ใช้ในการสร้าง Slice หรือรูปย่อยๆ
7.Healing brush Tool ใช้ในการระบายสี ซ่อมแซมรูปภาพให้สมบูรณ์
8. brush Tool ใช้ในการวาดเส้น
9.Clone Stamp Tool ใชัในการคัดลอกโดยอาศัยรูปภาพต้นฉบับ
10.History Bruch Tool ใช้ในการคืนรูปภาพเดิมจาก State ของรูปเดียวกัน
11.Eraser Tool ใช้ในการลบรูปภาพหรือลบบางส่วน
12.Paint Bucket Tool ใช้ในการเติมสี Fill ในบริเวณที่เป็นสีเดียวกัน
13.Smudge tool ใช้ในการดึงสีให้ไปใกล้เคียงกัน
14.Burn tool ใช้ลดความสว่าง ทำให้ภาพดูมมืดลง
15.Pen tools ใช้ในการลากเส้น path ซึ่งสามารถดัดโค้งตามรูปภาพได้
16.type tool ใช้ในการพิมพ์ตัวอักษร
17.Path Selection Path ใช้เพื่อเลือก Shape หรือ Path เพื่อแสดง Anchor Paint
18.Castom Shape tool ใช้เลือกรูปภาพ เลือกรูปภาพที่มีรูปร่างเฉพาะ
19.Animations tool ใช้เขียนโน้ต หรือแนบเสียงไปกับรูปภาพได้
20.Eyedropper tool ใช้ในการดูดสีจากรูปภาพเพื่อใช้เป็นต้นแบบของสีกับงานชิ้นอื่นๆ
21.Hand tool ใช้เลื่อนภาพที่อยู่หน้าต่างเดียวกัน
22.Zoom tool ใช้ย่อ-ขยายภาพ
(10.) ให้นักศึกษาบอกข้อดีของ Adobe PhotoshopCS3 พร้อมอธิบาย
คำตอบ พัฒนาการในการตกแต่งภาพ และออกแบบงานกราฟิก Adobe นับเป็นบริษัทหนึ่งที่พัฒนาโปรแกรมอย่างต่อเนื่อง Adobe PhotoshopCS3 ถือว่าเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมยุคดิจิทอล สังคมที่หลากหลายมิติ
(11.)ให้นักศึกษาหาความหมายของเครื่องมือใน Adobe PhotoshopCS3 พร้อมอธิบาย
1.Move Tool ใช้ในการเลื่อน Layer และ Guide ต่างๆ
2.Marquee Tool ใช้ในการเลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม ฯลน
3.Lasso Tool ใช้ในการเลือกแบบอิสระ
4.Magic Wand Tool ใช้ในการเลือกโดยอาศัยความสว่าง
5.Crop Tool ใช้ในการเลือกบางส่วนของรูปภาพ
6.Slice tool ใช้ในการสร้าง Slice หรือรูปย่อยๆ
7.Healing brush Tool ใช้ในการระบายสี ซ่อมแซมรูปภาพให้สมบูรณ์
8. brush Tool ใช้ในการวาดเส้น
9.Clone Stamp Tool ใชัในการคัดลอกโดยอาศัยรูปภาพต้นฉบับ
10.History Bruch Tool ใช้ในการคืนรูปภาพเดิมจาก State ของรูปเดียวกัน
11.Eraser Tool ใช้ในการลบรูปภาพหรือลบบางส่วน
12.Paint Bucket Tool ใช้ในการเติมสี Fill ในบริเวณที่เป็นสีเดียวกัน
13.Smudge tool ใช้ในการดึงสีให้ไปใกล้เคียงกัน
14.Burn tool ใช้ลดความสว่าง ทำให้ภาพดูมมืดลง
15.Pen tools ใช้ในการลากเส้น path ซึ่งสามารถดัดโค้งตามรูปภาพได้
16.type tool ใช้ในการพิมพ์ตัวอักษร
17.Path Selection Path ใช้เพื่อเลือก Shape หรือ Path เพื่อแสดง Anchor Paint
18.Castom Shape tool ใช้เลือกรูปภาพ เลือกรูปภาพที่มีรูปร่างเฉพาะ
19.Animations tool ใช้เขียนโน้ต หรือแนบเสียงไปกับรูปภาพได้
20.Eyedropper tool ใช้ในการดูดสีจากรูปภาพเพื่อใช้เป็นต้นแบบของสีกับงานชิ้นอื่นๆ
21.Hand tool ใช้เลื่อนภาพที่อยู่หน้าต่างเดียวกัน
22.Zoom tool ใช้ย่อ-ขยายภาพ
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ขั้นตอนการทำส่วนหัวด้วยตัวอักษรลำแสง
1 ไปที่เมนู File
2 . ไปที่ new แล้วเลือก width 1010 Pixels Heighr 1
35 pixels Resolution 1003. ไปที่ set forgreuf colur แล้วเลือกที่ต้องการ แล้ว ok
4. คลิกที่ Paint Bueket Tool แล้วคลิกที่พื้นที่สี่เหลี่ยมพื่อเทสี
5. คลิกที่ Type Tool เพื่อพิมพ์ข้อความ
6. กด ctrt+J แล้วกด ctrl +e เพื่อรวมเลเยอร์ กด Enter
7. จากนั้นแทรกรูปภาพ ที่เราต้องการ
8.ไปที่ File
9. ไปที่Open แล้วเลือกรูปที่เราต้องการเพิ่ม
10. ไปที่เมนู Move Tool เพื่อดึงรุปไปไส่ในแบรนเนอร์
11. ไปที่เมนู Edit
12. ไปที่เมนู Transfoer
13. ไปที่ Scale แล้วย่อขนาดให้พอดี แล้ว Entre
14. จากนั้นเพิ่มรูปนก
15. แล้วไปที่ Cuetemshase Tool แล้วเลือกรูปนก
2 . ไปที่ new แล้วเลือก width 1010 Pixels Heighr 1
35 pixels Resolution 1003. ไปที่ set forgreuf colur แล้วเลือกที่ต้องการ แล้ว ok
4. คลิกที่ Paint Bueket Tool แล้วคลิกที่พื้นที่สี่เหลี่ยมพื่อเทสี
5. คลิกที่ Type Tool เพื่อพิมพ์ข้อความ
6. กด ctrt+J แล้วกด ctrl +e เพื่อรวมเลเยอร์ กด Enter
7. จากนั้นแทรกรูปภาพ ที่เราต้องการ
8.ไปที่ File
9. ไปที่Open แล้วเลือกรูปที่เราต้องการเพิ่ม
10. ไปที่เมนู Move Tool เพื่อดึงรุปไปไส่ในแบรนเนอร์
11. ไปที่เมนู Edit
12. ไปที่เมนู Transfoer
13. ไปที่ Scale แล้วย่อขนาดให้พอดี แล้ว Entre
14. จากนั้นเพิ่มรูปนก
15. แล้วไปที่ Cuetemshase Tool แล้วเลือกรูปนก
วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การลง Adobe photoshop
1.ดับเบิลคลิกที่ดาวโหลด Adobe photoshop cs3.zip
2. คลิกเพื่อต้องการ save
3. เลือกโฟรเดอร์ที่เราต้องการ save เลือกคลิกsave
4. จากนั้นต้องการโหลด รอสักครู่
5. หลักจากโปรแกรมโหลดเสร็จแล้ว คลิก Open Foder
6. คลิกที่โปรแกรม Adober Phoshop
7 คลิก Exract Hler เพื่อทำการแตกไฟล์
8. ดับเบิลคลิกเพื่อติดตั้ง
9 คลิก NEXT
10. คลิก Finsh
11. Next
12. คลิก Finish
2. คลิกเพื่อต้องการ save
3. เลือกโฟรเดอร์ที่เราต้องการ save เลือกคลิกsave
4. จากนั้นต้องการโหลด รอสักครู่
5. หลักจากโปรแกรมโหลดเสร็จแล้ว คลิก Open Foder
6. คลิกที่โปรแกรม Adober Phoshop
7 คลิก Exract Hler เพื่อทำการแตกไฟล์
8. ดับเบิลคลิกเพื่อติดตั้ง
9 คลิก NEXT
10. คลิก Finsh
11. Next
12. คลิก Finish
วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
การลงโปรแกรม Nod32 v.4
1. เข้าไปที่เว็บอาจารย์ กิตติ์กาญจน์ http://www.kitt.kvc.ac.th/
2.แล้วไปคลิกที่คำว่า ดาวโหลด
3.และหาคำว่า Nod32แล้วคลิก
4. มันจะขึ้นหน้าจออีกแบบหนึ่งดูที่มาของโปรแกรม และดูที่ที่เราจะเก็บโปรแกรม
5. แล้วคลิก Start Download แล้วรอมันโหลด
6. แล้วไปคลิก Five ที่เอาโปรแกรมไปเก็บไว้
7. ดับเบิ้ลคลิก ที่โปรแกรม
8. จะขึ้นหน้าจอให้เราติดตั้ง คลิกคำว่า Next เพื่อเริ่มการติดตั้ง
9. แล้วกคลิ Next ต่อจะพบฟน้าจอ Installation
10.แล้วคลิกเลือกติดตั้งตัวแรก และกด Next
11. คลิก Next ต่อไป
12.คลิกเลือกตัวใดก็ได้ แล้วคลิก Next
13.แล้วคลิก Install เพื่อติดตั้ง และคลิก Next แล้วรอ
14.จะขึ้นหน้าจอ Completing แล้วคลิก Finish
15.เสร็จเรียบร้อยแล้ว
2.แล้วไปคลิกที่คำว่า ดาวโหลด
3.และหาคำว่า Nod32แล้วคลิก
4. มันจะขึ้นหน้าจออีกแบบหนึ่งดูที่มาของโปรแกรม และดูที่ที่เราจะเก็บโปรแกรม
5. แล้วคลิก Start Download แล้วรอมันโหลด
6. แล้วไปคลิก Five ที่เอาโปรแกรมไปเก็บไว้
7. ดับเบิ้ลคลิก ที่โปรแกรม
8. จะขึ้นหน้าจอให้เราติดตั้ง คลิกคำว่า Next เพื่อเริ่มการติดตั้ง
9. แล้วกคลิ Next ต่อจะพบฟน้าจอ Installation
10.แล้วคลิกเลือกติดตั้งตัวแรก และกด Next
11. คลิก Next ต่อไป
12.คลิกเลือกตัวใดก็ได้ แล้วคลิก Next
13.แล้วคลิก Install เพื่อติดตั้ง และคลิก Next แล้วรอ
14.จะขึ้นหน้าจอ Completing แล้วคลิก Finish
15.เสร็จเรียบร้อยแล้ว
วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
การถอน Nod32 v.4
1. ไปที่ Start
2.มาที่ Control Panel
3.มาที่คำว่า Removeโปรแกรม แล้วคลิก
4. หาโปรแกรม Nod ไปที่คำว่า เช้ง หรือไม่ก็ออกมาจากน้าจอนั้น
5. แล้วมาคลิกที่ Start
6.เข้า All Program
7.เข้าไปที่ ESET แล้วคลิก Uninstall
8. คลิก Next แล้วคลิกที่ Remove
9. เลือกตัวใดก็ได้ในช่องทีกำหนด แล้วคลิก Next
10. มาที่หน้าจอต่อไป อล้วคลิกคำว่า Remove
11. คลิกปุ่ม Finish และคลิกที่คำว่า Yes เพื่อ Restart เครื่อง
12. เสร็จเรียบร้อยแล้ว
2.มาที่ Control Panel
3.มาที่คำว่า Removeโปรแกรม แล้วคลิก
4. หาโปรแกรม Nod ไปที่คำว่า เช้ง หรือไม่ก็ออกมาจากน้าจอนั้น
5. แล้วมาคลิกที่ Start
6.เข้า All Program
7.เข้าไปที่ ESET แล้วคลิก Uninstall
8. คลิก Next แล้วคลิกที่ Remove
9. เลือกตัวใดก็ได้ในช่องทีกำหนด แล้วคลิก Next
10. มาที่หน้าจอต่อไป อล้วคลิกคำว่า Remove
11. คลิกปุ่ม Finish และคลิกที่คำว่า Yes เพื่อ Restart เครื่อง
12. เสร็จเรียบร้อยแล้ว
วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
วิธีการลงวินโดว์
การลงวินโดวส์ใหมก็มีวิธีดังนี้
1. เปิดเครื่อง สั่ง BIOS ให้ boot จาก CD-ROM (boot from CD-ROMอันดับแรก)หลังจาก save BIOS
และ exit กดEnterแล้วเครื่องจะ restart
2. ใส่ แผ่น windows XP เข้าไปใน CD-ROM Drive
3. จะพบข้อความ press any key to boot from CD.. ให้กดปุ่ม Enterเพื่อ boot เครื่องจาก CD-ROM
Widows XP
4. จะมีการ copy ไฟล์หรือข้อมูลบางส่วน ให้คุณรอไปก่อน
5. เมื่อพบหน้าต่าง welcome to setup ให้เริ่มติดตั้ง
ได้ทันทีโดยกดปุ่ม Enter เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
6. จะปรากฏข้อความเกี่ยวกับการใช้งาน windows XP (หน้า
จอเขียนว่า Windows XP Licensing)ให้กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับรายละเอียดดังกล่าว
7. พอมาถึงขั้นตอนนี้ จะเป็นการเลือกติดตั้ง Windows XP ลงใน partition ใดคุณจะพบคำสั่งให้เลือก 3
แบบคือ-ติดตั้งใน partition ที่เลือกไว้ ให้ กด Enter-สร้าง partition ใหม่กด C-ลบ partition นั้นกด D
สมมติว่าคุณจะเลือกลงใน partition ที่เลือกไว้คือ Drive C นะให้คุณกด Enter เพื่อติดตั้งที่ Drive C
8. เลือกระบบไฟล์ที่ต้องการ โดยกดปุ่มลูกศรขึ้นลง หลังจากนั้นกด Enter
9. ปรากฏหน้าจอให้ format (to continue and format the partition ,press Enter) ให้กด Enter
10. Windows จะเริ่ม format
11. หลังจาก format แล้วมันก็จะ copy ข้อมูลลงใน HDD
12. หลังจากนั้นปรากฏหน้าจอ This partition of setup has completed……ให้กดปุ่ม Enter เพื่อ restart
เครื่อง
13. หลังจากเครื่องเริ่ม restart อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกว่าจะขึ้นหน้าจอ Windows XP Professional
14. จะเห็นวินโดว์ตรวจสอบค่าต่างๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีอะไรของมันไปตามเรื่องคุณก็อ่านเล่นๆ ไปพลางๆ
ก่อนได้
15. รอสักหน่อยก็จะปรากฏหน้าต่าง Regional and language Option ออกมา คลิ๊กที่แท็บ Customize
16. คลิ๊กที่แท็บ languages
17. คลิ๊กถูกที่ข้อความ install files for complex scipt….แล้วตอบ OKและคลิ๊กถูกที่ install files for East
Asian language แล้วตอบ OK
18. จากนั้น คลิ๊กที่แท็บ advanced
19. เลือกภาษาไทย แล้วกด Apply เครื่องจะ copy ไฟล์ font ภาษาไทย (ขั้นตอนนี้ใจเย็นรอสักครู่)
20. หลังจากนั้นคลิ๊กที่แท็บ regional option แล้วเลือกไทย location ก็เลือกเป็น Thailand
21. คลิ๊ก next
22. จะปรากฏหน้าต่าง personalize Your softwareให้คุณตั้งชื่อตามใจที่คุณต้องการ ส่วนช่อง
Organization เลือกพิมพ์เป็นอะไรก็ได้
23. คลิ๊ก next
24. กรอกหมายเลขแผ่น windows XP ซึ่งมี 25 ตัว
25. คลิ๊ก next
26. กรอกชื่อ computer ของคุณ ที่ช่อง computer name
27. ตั้ง password หรือไม่ตั้งก็ได้ตามใจ
28. คลิ๊ก next
29. ตั้งวันที่ให้ตรง ที่ time zone เลือก GMT +7 Bangkok,Hanoi,Jakata
30. คลิ๊ก next
31. เลือการติดตั้งแบบ Typical
32. คลิ๊ก next
33. กรอกข้อมูลเครือข่ายกรณีที่คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใส่ชื่อเครือข่ายของคุณถ้าคุณมี modem มันก็
ให้คุณ set ค่าต่างๆ ขณะนั้นเลย คุณก็กรอกไป
34. คลิ๊ก next และรอต่อไปจนกระทั่งมัน restart ใหม่
35. อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกระทั่งมันขึ้น logo Windows Xp professional
36. ถ้าเครื่องคุณเป็น VGA on Board มันก็จะปรับขนาดจอภาพให้คุณจนขึ้นมองได้ชัดเจนแล้วให้กด OK
แต่ถ้าเป็น VGA ต่างหากมันจะข้ามขั้นตอนนี้ไป
37. จะปรากฏหน้าจอ Welcome to………. .ให้คุณคลิ๊ก next ด้านล่างขวา
38. หากคุณต่อ internet มันจะเชื่อมต่อ internet เพื่อ updateแนะนำว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยโดยคลิ๊กที่
skip ซึ่งอยู่ด้านล่างขวา
39. จะปรากฏหน้าจอ ready to register with ….. ให้คุณเลือก No, not this time
40. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
41. จะปรากฏหน้าจอ who will use this computer? ให้คุณกรอกชื่อผู้ใช้ซึ่งมีให้กรอก 5 usersแต่คุณกรอก
ชื่อเดียวได้โดยชื่อนั้นห้ามซ้ำกับชื่อเครื่องที่คุณตั้งไว้ในข้อ 26
42. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
43. คลิ๊ก finish ด้านล่างขวา เป็นอันเสร็จ
44. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอใช้งานเป็นรูปทุ่งหญ้าวิวมี เมฆ ถ้าจำไม่ผิดจะมี icon ตัวเดียวคือ recycle
bin อยู่ที่มุมล่างขวา คุณสามารถเพิ่ม icon ใช้งานอื่นๆได้โดย คลิ๊กขวาบริเวณพื้นที่ว่างเลือก properties
แล้วคลิ๊กที่แท็บ Desktopแล้วคลิ๊ก Customize Desktop (อยู่ใกล้ๆ ปุ่ม OK) จะปรากฏหน้าต่างDesktop
Itemที่แท็บ General ให้คุณคลิ๊กถูกที่ Desktop icon ที่คุณต้องการโชว์บนหน้า Desktopหลังจากนั้นคลิ๊ก
OK เป็นอันเรียบร้อยหากซีพียูของคุณมีความเร็ว 700 เมกะเฮิร์ตขึ้นไป และมีหน่วยความจำอย่างน้อย 256
เมกะไบต์(แน่ะนำ 256 เมกะไบต์ขึ้นไปยิ่งดีมากๆๆๆๆๆ) ฮาร์ดดิสก์ 20 กิกะไบต์ขึ้นไปไดรฟ์ซีดีรอม 24X ขึ้น
ไป การ์ดจอก็ควรจะมีหน่วยความจำสัก 64 เมกะไบต์จะให้ดีเป็นการ์ดจอแบบ AGP 4X ,8Xด้วยล่ะก็ เยี่ยม!
โมเด็ม Soft V92 จะให้ดีไปกว่านั้นก็การ์ดเสียง PCI ลำโพงดีๆ สักคู่ ( นะจะบอกให้ๆๆๆๆๆๆๆๆ.........)
1. เปิดเครื่อง สั่ง BIOS ให้ boot จาก CD-ROM (boot from CD-ROMอันดับแรก)หลังจาก save BIOS
และ exit กดEnterแล้วเครื่องจะ restart
2. ใส่ แผ่น windows XP เข้าไปใน CD-ROM Drive
3. จะพบข้อความ press any key to boot from CD.. ให้กดปุ่ม Enterเพื่อ boot เครื่องจาก CD-ROM
Widows XP
4. จะมีการ copy ไฟล์หรือข้อมูลบางส่วน ให้คุณรอไปก่อน
5. เมื่อพบหน้าต่าง welcome to setup ให้เริ่มติดตั้ง
ได้ทันทีโดยกดปุ่ม Enter เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
6. จะปรากฏข้อความเกี่ยวกับการใช้งาน windows XP (หน้า
จอเขียนว่า Windows XP Licensing)ให้กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับรายละเอียดดังกล่าว
7. พอมาถึงขั้นตอนนี้ จะเป็นการเลือกติดตั้ง Windows XP ลงใน partition ใดคุณจะพบคำสั่งให้เลือก 3
แบบคือ-ติดตั้งใน partition ที่เลือกไว้ ให้ กด Enter-สร้าง partition ใหม่กด C-ลบ partition นั้นกด D
สมมติว่าคุณจะเลือกลงใน partition ที่เลือกไว้คือ Drive C นะให้คุณกด Enter เพื่อติดตั้งที่ Drive C
8. เลือกระบบไฟล์ที่ต้องการ โดยกดปุ่มลูกศรขึ้นลง หลังจากนั้นกด Enter
9. ปรากฏหน้าจอให้ format (to continue and format the partition ,press Enter) ให้กด Enter
10. Windows จะเริ่ม format
11. หลังจาก format แล้วมันก็จะ copy ข้อมูลลงใน HDD
12. หลังจากนั้นปรากฏหน้าจอ This partition of setup has completed……ให้กดปุ่ม Enter เพื่อ restart
เครื่อง
13. หลังจากเครื่องเริ่ม restart อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกว่าจะขึ้นหน้าจอ Windows XP Professional
14. จะเห็นวินโดว์ตรวจสอบค่าต่างๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีอะไรของมันไปตามเรื่องคุณก็อ่านเล่นๆ ไปพลางๆ
ก่อนได้
15. รอสักหน่อยก็จะปรากฏหน้าต่าง Regional and language Option ออกมา คลิ๊กที่แท็บ Customize
16. คลิ๊กที่แท็บ languages
17. คลิ๊กถูกที่ข้อความ install files for complex scipt….แล้วตอบ OKและคลิ๊กถูกที่ install files for East
Asian language แล้วตอบ OK
18. จากนั้น คลิ๊กที่แท็บ advanced
19. เลือกภาษาไทย แล้วกด Apply เครื่องจะ copy ไฟล์ font ภาษาไทย (ขั้นตอนนี้ใจเย็นรอสักครู่)
20. หลังจากนั้นคลิ๊กที่แท็บ regional option แล้วเลือกไทย location ก็เลือกเป็น Thailand
21. คลิ๊ก next
22. จะปรากฏหน้าต่าง personalize Your softwareให้คุณตั้งชื่อตามใจที่คุณต้องการ ส่วนช่อง
Organization เลือกพิมพ์เป็นอะไรก็ได้
23. คลิ๊ก next
24. กรอกหมายเลขแผ่น windows XP ซึ่งมี 25 ตัว
25. คลิ๊ก next
26. กรอกชื่อ computer ของคุณ ที่ช่อง computer name
27. ตั้ง password หรือไม่ตั้งก็ได้ตามใจ
28. คลิ๊ก next
29. ตั้งวันที่ให้ตรง ที่ time zone เลือก GMT +7 Bangkok,Hanoi,Jakata
30. คลิ๊ก next
31. เลือการติดตั้งแบบ Typical
32. คลิ๊ก next
33. กรอกข้อมูลเครือข่ายกรณีที่คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใส่ชื่อเครือข่ายของคุณถ้าคุณมี modem มันก็
ให้คุณ set ค่าต่างๆ ขณะนั้นเลย คุณก็กรอกไป
34. คลิ๊ก next และรอต่อไปจนกระทั่งมัน restart ใหม่
35. อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกระทั่งมันขึ้น logo Windows Xp professional
36. ถ้าเครื่องคุณเป็น VGA on Board มันก็จะปรับขนาดจอภาพให้คุณจนขึ้นมองได้ชัดเจนแล้วให้กด OK
แต่ถ้าเป็น VGA ต่างหากมันจะข้ามขั้นตอนนี้ไป
37. จะปรากฏหน้าจอ Welcome to………. .ให้คุณคลิ๊ก next ด้านล่างขวา
38. หากคุณต่อ internet มันจะเชื่อมต่อ internet เพื่อ updateแนะนำว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยโดยคลิ๊กที่
skip ซึ่งอยู่ด้านล่างขวา
39. จะปรากฏหน้าจอ ready to register with ….. ให้คุณเลือก No, not this time
40. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
41. จะปรากฏหน้าจอ who will use this computer? ให้คุณกรอกชื่อผู้ใช้ซึ่งมีให้กรอก 5 usersแต่คุณกรอก
ชื่อเดียวได้โดยชื่อนั้นห้ามซ้ำกับชื่อเครื่องที่คุณตั้งไว้ในข้อ 26
42. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
43. คลิ๊ก finish ด้านล่างขวา เป็นอันเสร็จ
44. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอใช้งานเป็นรูปทุ่งหญ้าวิวมี เมฆ ถ้าจำไม่ผิดจะมี icon ตัวเดียวคือ recycle
bin อยู่ที่มุมล่างขวา คุณสามารถเพิ่ม icon ใช้งานอื่นๆได้โดย คลิ๊กขวาบริเวณพื้นที่ว่างเลือก properties
แล้วคลิ๊กที่แท็บ Desktopแล้วคลิ๊ก Customize Desktop (อยู่ใกล้ๆ ปุ่ม OK) จะปรากฏหน้าต่างDesktop
Itemที่แท็บ General ให้คุณคลิ๊กถูกที่ Desktop icon ที่คุณต้องการโชว์บนหน้า Desktopหลังจากนั้นคลิ๊ก
OK เป็นอันเรียบร้อยหากซีพียูของคุณมีความเร็ว 700 เมกะเฮิร์ตขึ้นไป และมีหน่วยความจำอย่างน้อย 256
เมกะไบต์(แน่ะนำ 256 เมกะไบต์ขึ้นไปยิ่งดีมากๆๆๆๆๆ) ฮาร์ดดิสก์ 20 กิกะไบต์ขึ้นไปไดรฟ์ซีดีรอม 24X ขึ้น
ไป การ์ดจอก็ควรจะมีหน่วยความจำสัก 64 เมกะไบต์จะให้ดีเป็นการ์ดจอแบบ AGP 4X ,8Xด้วยล่ะก็ เยี่ยม!
โมเด็ม Soft V92 จะให้ดีไปกว่านั้นก็การ์ดเสียง PCI ลำโพงดีๆ สักคู่ ( นะจะบอกให้ๆๆๆๆๆๆๆๆ.........)
วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
ประวัติสวนตัว
ชื่อ นางสาวธัญญาลักษณ์ สีอินทร์มน
ชื่อเล่น แป้ง
วันเกิด 29 กันยายน 2533 ปีมะเมีย
ที่อยู่ บ้านเลขที่ 186 หมู่ที่ 8 ต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง จ. ขอนแก่น 40150
เบอร์โทรศัพท์ 087-6374523
e-mail tanyalak-pang@thaimail.com
มีพี่น้อง 2 คน เป็นคนที่ 1
สีที่ชอบ สีม่วง สีดำ สีแดง
ประวัติการศึกษา จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จากโรงเรียนบ้านโนนสำราญ
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จากโรงเรียนกุดขอนแก่นวิทยาคม
ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปวส.1 ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
งานอดิเรก อ่านหนังสือการ์ตูน เล่นเกมส์ นอน
ชื่อเล่น แป้ง
วันเกิด 29 กันยายน 2533 ปีมะเมีย
ที่อยู่ บ้านเลขที่ 186 หมู่ที่ 8 ต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง จ. ขอนแก่น 40150
เบอร์โทรศัพท์ 087-6374523
e-mail tanyalak-pang@thaimail.com
มีพี่น้อง 2 คน เป็นคนที่ 1
สีที่ชอบ สีม่วง สีดำ สีแดง
ประวัติการศึกษา จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จากโรงเรียนบ้านโนนสำราญ
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จากโรงเรียนกุดขอนแก่นวิทยาคม
ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปวส.1 ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
งานอดิเรก อ่านหนังสือการ์ตูน เล่นเกมส์ นอน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)